รีวิวหนัง Greenland วุ่นวายหนีตายวันสิ้นโลก! หนังออนไลน์
หนังแนวหายนะเป็นเลิศในแนวหนังที่ผู้ชมคนประเทศไทยให้การต้อนรับอย่างยอดเยี่ยมตลอดมา กับเรื่องราวที่เล่ากล้วยๆไม่สลับซับซ้อน ย้ำขายฉากความบรรลัยสันตะโร กับเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเราได้ลุ้นได้ตื่นเต้นไปตลอดตั้งแต่ต้นกระทั่งจบ ซึ่งจะว่าไปพวกเราก็มิได้ดูหนังแนวนี้มาสักระยะ โน่นทำให้ Greenland นาทีระทึก..วันสิ้นโลก มีแต้มต่อในใจที่กระตุ้นให้พวกเราต้องการดูหนังหัวข้อนี้เป็นพิเศษ
หนังเริ่มเมื่อโลกจำเป็นต้องต้อนรับการมาของดาวหางคลาร์ก พื้นที่ดาราศาสตร์ไม่สามารถที่จะพิสูจน์ที่มาที่ไปของมันได้ แม้กระนั้นก็ประเมินว่าดาวหางนี้ไม่น่าจะรังแกรุนแรงให้กับโลกมากสักเท่าไรนัก แต่ว่าความจริงกลับไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวมา เศษดาวหางเริ่มพุ่งเข้าชนโลกเอาจริงเอาจังขึ้นเรื่อยเวลาของโลกเหลือลดลงทุกครั้ง เมื่อลูกที่ใหญ่ที่สุดกำลังจะพุ่งชนในอีกไม่กี่ชั่วโมงด้านหน้า ทำให้รัฐบาลเริ่มปฏิบัติงานคุ้มครองปกป้องมนุษยชาติ ด้วยการคัดสรรผู้สมควรที่จะอยู่รอดเพื่อพาไปยังที่กำบังภัย ซึ่งครอบครัวของจอห์น มึงริตี้ (พบร์ราด บัตเลอร์) ได้รับเลือก แต่ว่าแนวทางไปสู่การรอคอยดชีวิตนั้นไม่ง่าย เมื่อเขาจำต้องประจันหน้ากับความวุ่นวาย ความสับสน รวมทั้งความเห็นแก่ได้ของคน ที่ทุกชีวิตปรารถนาอยู่รอด..
ถึงแม้หน้าหนังของ Greenland นาทีระทึก..วันสิ้นโลก จะก่อให้รำลึกถึงหนังแนวโลกาพินาศ (Apocalyptic) เสมือนหนังเรื่องอื่นๆแม้กระนั้นเนื้อแท้แล้วนี่เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอด (Survivor) เสียมากกว่า เพราะว่าหนังย้ำไปที่ชีวิตของ จอห์น เอ็งริตี้ ที่หากแม้ชีวิตงานการจะดี แต่ว่าชีวิตครอบครัวกลับอยู่ในตอนหัวเลี้ยวหัวต่อ เมื่อมีเรื่องมีราวผิดใจกับเมีย ในตอนที่ลูกก็มีโรคประจำตัว แต่ว่าก็ทุ่มเทหาทางปกป้องรักษาครอบครัวให้รอดพ้นจากเภทภัยนี้
หนังถ่ายทอดมุมมองของคนเดินดินๆคนหนึ่งที่ปรารถนาต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดแล้วก็คุ้มครองครอบครัวจากหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น ความเพลิดเพลินของเรื่องก็เลยมิได้อยู่ที่ฉากฉิบหายวิจิตรตระการตา แม้กระนั้นมันอยู่ที่คนสู้กับคนนี่แหละ ที่หนังก็นำพาสถานะการณ์โกลาหลสารพัน ที่บีบบังคับ แล้วก็ตั้งปัญหากับผู้ชม ว่าถ้าหากพวกเราจำเป็นต้องตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ตรงนั้นพวกเราจะเอาชีวิตรอดยังไง พวกเราจะยอมทอดทิ้งความเป็นคน ลืมคุณธรรม เพื่อเอาชีวิตรอดหรือเปล่า
ฉะนั้นหนังก็เลยจำต้องพึ่งพาอาศัยพลังของดาราสำหรับเพื่อการดึงผู้ชมให้ติดตาม ซึ่ง พบร์ราด บัตเลอร์ (นอกเหนือจากนำแสดงแล้วยังมีชื่อเป็นผู้อำนวยการผลิตอีกด้วย) ปฏิบัติหน้าที่ในหนังหัวข้อนี้ได้ดิบได้ดีมากมาย แฟนคลับบางทีอาจมิได้มองเห็นฉากแอ็กชันในแบบ Olympus Has Fallen แต่ว่าก็ได้มองเห็นหน้าที่ของป๊ะป๋าแล้วก็ผัวที่จำเป็นต้องกระทำหน้าที่ให้ดีเยี่ยมที่สุด เพื่อทดแทนสิ่งต่างๆที่เขาเคยทำผิดพลาดไป
อีกผู้ที่สะดุดตาไม่แพ้กันเป็น โมเรนา กางคคาริน ดาราสาวชาวบราซิลที่คนจำนวนไม่น้อยอาจคุ้นตากับบท วาเนสซา แฟนของ Deadpool ในบทของแม่แล้วก็เมียของ พบร์ราด บัตเลอร์ ก็มีหลายฉากที่ทำให้ลุ้นและก็เอาใจช่วยคุณ ซึ่งพลังทางการแสดงของอีกทั้ง 2 ช่วยยกฐานะเรื่องราวให้น่าติดตามเยอะขึ้น ซึ่งส่วนตัวถูกใจดราม่าครอบครัวที่พรีเซนเทชั่นมากมายเป็นพิเศษ ซึ้ง สะเทือนขวัญ จนถึงบางบุคคลอาจมีน้ำตาซึม
เมื่อพาร์ทดราม่าสะดุดตาขนาดนี้ ด้านฉากวินาศสันตะโรก็เลยเปลี่ยนมาเป็นพระรอง แม้กระนั้นก็มิได้แสดงว่าหนังจะไม่เอาจิตใจแฟนหนังภัยที่ต้องการมองเห็นฉากหายนะมันๆที่ทำให้เลือดลมจำต้องสูบฉีดระหว่างมอง หนังยังคงมีให้ในแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไต่ระดับตั้งแต่เล็กๆไปจนกระทั่งระดับสิ้นโลกในส่วนท้าย หากแม้บางทีอาจมิได้มีฉากกลุ่มนี้มากไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับหนังหายนะเรื่องอื่นๆแต่ว่าก็มากมายพอเพียงให้ลุ้นและก็ตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์ของเรื่อง
ผู้กำกับ ริก โรมัน วาฟ ที่เคยร่วมงานกับ พบร์ราด บัตเลอร์ ใน Angel Has Fallen กลับมาร่วมงานกันอีกทีในแนวหนังที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าผลที่เกิดก็ถือได้ว่าเป็นหนังแนวหายนะที่ถูกใจ บางทีอาจมิได้ยิ่งใหญ่อะไร แม้กระนั้นความสมจริงสมจัง มีเหตุผลที่หนังมอบให้ ก็ทำให้หนัง Greenland นาทีระทึก..วันสิ้นโลก จะเป็นหนังแนวหายนะภัยอันตรายที่ให้ความบันเทิงกับทุกคนที่ไปซื้อตั๋วดูหนังประเด็นนี้
รีวิวซีรีส์+รีวิวหนัง กระบี่พิฆาตยักษ์ – เสาหลักของแอนิเมชันสมัยใหม่!
ในปี 2563 ก่อนหน้านี้ ด้านการบรรลุเป้าหมายของแอนิเมชันอาจไม่มีผู้ใดเกิน Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba หรือชื่อไทยว่า กระบี่พิฆาตยักษ์ ที่มีชื่อเสียงอีกทั้งซีรีส์รวมทั้งภาพยนตร์ กระบี่พิฆาตอสุรี เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร ที่ซ้ำเติมความได้รับความนิยมในแบบที่สร้างการปรากฏทำเงินถล่มทลาย หากแม้วัววิด-19 ก็ไม่บางทีอาจขวาง
กระบี่พิฆาตยักษ์ เริ่มมาจากมังงะของ วัวโยฮารุ โกโตะเกะ ปริมาณ 23 เล่มจบ ที่เขียนระหว่างปี 2559 แล้วก็เพิ่งจะจบไปเมื่อกลางปี 2563 นี่เอง ส่วนแอนิเมชันก็มีออกมาแล้วหนึ่งฤดูกาล ปริมาณ 26 ตอน แล้วก็ภาพยนตร์ ซึ่งดูแลงานสร้างโดยสตูดิโอ Ufotable
ส่วนตัวที่ไม่เคยติดตามอ่านมังงะมาก่อน พอใช้ได้มองเห็นความได้รับความนิยมที่กระหน่ำถลายระดับการเกิดแบบนี้ เลยอยู่เฉยมิได้ ต้องหาเวลาไล่เก็บซีรีส์ทั้งยัง 26 ตอนและก็ภาพยนตร์ให้ครบ จนได้รู้เรื่องเสียเชิงว่าเพราะเหตุไร กระบี่พิฆาตอสุรี ถึงมีชื่อเสียงขนาดนี้ โดยจะขอให้รายละเอียดออกเป็น 3 ส่วน
เรื่องราว
กระบี่พิฆาตอสุรี เล่าราวที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น สมัยไทโช (1912 – 1926) เมื่อครอบครัวค้างมาโดะได้ถูกยักษ์ฆ่า โดยเหลือรอดตายเพียงแค่ ทันจิโร่ ลูกชายคนโต แล้วก็ เนซึโกะ น้องสาวที่ถูกทำให้แปลงเป็นยักษ์ ความปรารถนาที่จะหาทางช่วยเหลือน้องสาวให้กลับกลายคนที่ใครๆก็รู้จักเดิม ก็เลยกำหนดเป้าหมายชีวิตที่จะเป็น “นักล่าอสุรี” ผ่านการฝึกหัดอย่างมาก จนได้เข้า “กรุ๊ปพิฆาตยักษ์” ได้ท้ายที่สุด รวมทั้งได้เจอเพื่อนฝูงคนสำคัญอย่าง เซนอิตซึ และก็ อิโนสุเกะ ที่เริ่มเดินทางทำภารกิจปราบยักษ์ด้วยกัน
ความน่าดึงดูดใจเริ่มจากที่ตรงนี้ ถึงแม้เรื่องจะจุดโฟกัสที่ตัวนำทันจิโร่ สำหรับเพื่อการล่ายักษ์เพื่อช่วยน้องสาว แม้กระนั้นในรูปภาพใหญ่นี่เป็นการต่อสู้ระหว่าง 2 กรุ๊ป ด้านหนึ่งเป็น “กรุ๊ปพิฆาตยักษ์” หน่วยงานนอกกฎหมายที่มี “9 เสาหลัก” ผู้ใช้วิชากระบี่แล้วก็พลังปราณธาตุต่างๆปฏิบัติหน้าที่ปราบยักษ์ที่รังควานและก็กินเนื้อคน โดยมีเป้าหมายสูงสุดเป็น หาทางปราบ “คิบุซึจิ มุซัน” ผู้ให้กำเนิดเหล่ายักษ์ต่างๆบริเวณแวดล้อมด้วยกรุ๊ปยักษ์ที่แกร่งที่สุดในชื่อ “12 ดวงจันทร์อสุรี”
เพียงนี้ก็จินตนาการถึงความมันในฉากแอ็กชันได้ไม่สิ้นสุดแล้ว ท่าไม้เด็ดต่างๆมีเอกลักษณ์ นักแสดงแต่ละตัวเด่น แล้วก็ที่สำคัญเป็นการออกแบบการต่อสู้ที่มีมิติ มิได้ใช้เพียงแค่กำลัง จำต้องใช้ความคิดด้วย คนไหนเป็นสายแนวต่อสู้ อย่างไรก็จะต้องถูกใจประเด็นนี้
แต่ว่าที่เหนือไปกว่านั้น เป็นการออกแบบผู้แสดง ที่มีเสน่ห์ มีความลึก แล้วก็ให้เวลามากพอที่จะทำให้ได้ทราบจะเบื้องหลัง ทำรู้เรื่องสำหรับในการทำและก็เห็นอกเห็นใจกับสิ่งที่นักแสดงจำเป็นต้องพบเจอ กระทั่งกำเนิดความรู้สึก “รัก” ในผู้แสดงขึ้นมา ที่กล่าวมานั้นมิได้ซึ่งก็คือ “กรุ๊ปผู้แสดงนำ” เพียงแค่ฝ่ายเดียว เนื่องจาก “กรุ๊ปคนร้าย” ในประเด็นนี้ก็มีเสน่ห์รวมทั้งมิติที่ลึก จนกระทั่งบางครั้งก็อาจจะกล่าวว่าลึกมากยิ่งกว่ากรุ๊ปผู้แสดงนำด้วย แล้วก็ถ้าหากเคยทราบคำบอกเล่าว่า ดูหนัง มองละคร แล้วย้อนดูตัว ก็จำเป็นต้องขอเพิ่มเติมไปอีกว่า ดูดาบพิฆาตยักษ์ ก็ทำให้ย้อนดูตัวได้แบบเดียวกัน ทำให้พวกเราได้แง่คิดดีๆมาประยุกต์กับชีวิต
สตูดิโอ Ufotable ที่นับเป็นแนวหน้าของแวดวง ได้รับหน้าที่ทำ กระบี่พิฆาตอสุรี ในฉบับแอนิเมชันซีรีส์ ซึ่งขณะนี้ออกมาแล้วหนึ่งฤดูกาล ปริมาณ 26 ตอน นับว่าได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด แฟนกระบี่พิฆาตอสุรีหลายท่าน ก็มีจุดกำเนิดมาจากแอนิเมชัน (รวมกลุ่มผมด้วย)
การแปลงภาพนิ่งๆให้เป็นภาพเคลื่อนไหวไม่ใช้ว่าจะง่าย ด้วยเหตุว่ามีเรื่องมีราวของอิริยาบถการเคลื่อนที่ มิติของนักแสดง ภาพแล้วก็ดนตรี ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงจำเป็นต้องพึ่งพิงพลังจินตนาการสูงมากมาย แม้กระนั้นด้วยต้นฉบับของ วัวโยฮารุ โกโตะเกะ ที่ทำไว้ดีเลิศๆอยู่แล้ว เปรียบเทียบไปก็เช่นเดียวกับ วัตถุดิบเกรดเอ ซึ่งสตูดิโอ Ufotable ก็เป็นเชฟมือชั้นยอด ที่ทราบดีว่าจะดึงรสของวัตถุดิบออกมาให้ยอดเยี่ยมเช่นไร ผลที่เกิดเลยเป็นแอนิเมชันประสิทธิภาพสูงในทุกๆด้าน ที่สะดุดตาที่สุด ก็คงจะเป็นฉากแอ็กชันที่ทำออกมาได้สนุกสนานมากมายๆ
ภาพยนตร์
Demon Slayer: Mugen Train หรือในชื่อไทยว่า กระบี่พิฆาตยักษ์ เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร ซึ่งก็เป็นฝีมือของ สตูดิโอ Ufotable เช่นกัน ได้เปลี่ยนเป็นหนังแอนิเมชันก็ทำรายได้แซง Spirited Away ขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดนิรันดรในประเทศญี่ปุ่น
ฉบับภาพยนตร์นี้ ไม่ใช่ภาคพิเศษหรือมีเรื่องราวพิเศษอะไร ด้วยเหตุว่าเรื่องราวเล่าต่อจากแอนิเมชันซีรีส์ ที่กรุ๊ปทันจิโร่ เนซึโกะ เซนอิตซึ แล้วก็ อิโนสุเกะ จำเป็นต้องไปทำภารกิจแสวงหาข้อสรุปของการล่องหนไปของราษฎรบนขบวนรถไฟ โดยมี “เสาหลักไฟ” เรนยกลุก ร่วมทางไปด้วย ที่เบื้องหน้าเบื้องหลังนั้นมี “พระจันทร์ยักษ์” เข้ามาเกี่ยวพัน
นั่นนับว่าแอนิเมชันหัวข้อนี้ ไม่เหมาะสมกับผู้ที่ไม่เคยสัมผัสกระบี่พิฆาตอสุรีมาก่อนไม่ว่าจะฉบับมังงะหรือแอนิเมชัน Ufotable รู้อยู่แล้วว่าฝูงชนมองเป็นใครกันแน่ เลยไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาสำหรับในการชี้แจงแหล่งที่มา แล้วก็พาเรื่องราวไปสู่จุดไคลแมกซ์โดยทันที
บางทีอาจด้วยเหตุว่าความมั่นใจและความเชื่อมั่นในความเลื่องชื่อรวมทั้งบรรลุผลสำเร็จอย่างมากตั้งแต่ฉบับแอนิเมชันซีรีส์ ภาพยนตร์แอนิเมชันประเด็นนี้ก็เลยเป็นการงานประสิทธิภาพสูง จัดหนัก จัดเต็ม โชว์สมรรถนะแนวทางการทำแอนิเมชันในยุคนี้ แอ็กชันดุเดือด ดราม่าช้ำใจ เต็มไปด้วยแง่งามทั้งในด้านเรื่องราวแล้วก็ประสิทธิภาพงานสร้างของแอนิเมชัน เป็นความเยี่ยมที่สุดจนกระทั่งหาข้อตำหนิได้ยากจริงๆ
โดยสรุป กระบี่พิฆาตอสุรี อีกทั้งซีรีส์แล้วก็ภาพยนตร์ มิได้เป็นเพียงแต่งานที่แฟนคลับต่างสรรเสริญเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นนี่ยังเป็นงานที่ผู้ที่ประทับใจแอนิเมชันไม่สมควรพลาดจริงๆสำหรับซีรีส์สามารถมองแบบถูกลิขสิทธิ์ได้เลยทาง Netflix, LINE TV, AIS Play ผู้ใดสบายอะไรเลือกได้เลย สำหรับภาพยนตร์ในตอนนี้ยังพอเพียงมีรอบอยู่ ยังไม่สายเหลือเกิน..